ตารางราคางาน Built-in ในปัจจุบัน
ราคาของงาน Built-in (การตกแต่งหรือออกแบบภายในที่ถูกติดตั้งในบ้าน) อาจแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย เช่น ขนาดของงาน, คุณภาพของวัสดุ, และภูมิภาคที่ทำงาน ราคานี้สามารถเป็นข้อมูลอ้างอิงทั่วไป แต่ควรติดต่อผู้รับเหมาและผู้ผลิตวัสดุเพื่อขอราคาโดยละเอียดตามความต้องการเฉพาะของคุณ
ตารางราคางาน Built-in (ประมาณการ)
ตู้เสื้อผ้า Built-in
- วัสดุ MDF หรือ HDF: ประมาณ 10,000 – 30,000 บาท/ตู้
- วัสดุไม้จริง: ประมาณ 30,000 – 60,000 บาท/ตู้
เคาน์เตอร์ครัว Built-in
- วัสดุ MDF หรือ HDF: ประมาณ 15,000 – 50,000 บาท/เมตร
- วัสดุหินแกรนิต: ประมาณ 50,000 – 100,000 บาท/เมตร
ตู้หนังสือ Built-in
- วัสดุ MDF หรือ HDF: ประมาณ 10,000 – 40,000 บาท/ตู้
- วัสดุไม้จริง: ประมาณ 30,000 – 70,000 บาท/ตู้
การออกแบบและติดตั้ง Built-in อื่นๆ (เช่น ตู้เก็บของ, โต๊ะทำงาน, ฯลฯ)
- วัสดุ MDF หรือ HDF: ประมาณ 15,000 – 50,000 บาท/ชิ้น
- วัสดุไม้จริง: ประมาณ 40,000 – 80,000 บาท/ชิ้น
งานติดตั้งประตู Built-in
- วัสดุ MDF หรือ HDF: ประมาณ 5,000 – 15,000 บาท/บาน
- วัสดุไม้จริง: ประมาณ 15,000 – 30,000 บาท/บาน
งานตกแต่งผนัง Built-in (เช่น แผงตกแต่ง, ช่องเก็บของ)
- วัสดุ MDF หรือ HDF: ประมาณ 10,000 – 30,000 บาท/ตารางเมตร
- วัสดุไม้จริง: ประมาณ 30,000 – 60,000 บาท/ตารางเมตร
หมายเหตุ
- ราคาดังกล่าวเป็นประมาณการและอาจแตกต่างกันตามสถานที่, คุณภาพของวัสดุ, ขนาดของงาน, และบริษัทที่ทำงาน
- การปรับเปลี่ยนดีไซน์และรายละเอียดสามารถทำให้ราคาสูงขึ้นหรือลดลง
เพื่อความแม่นยำ ควรขอใบเสนอราคาโดยละเอียดจากผู้รับเหมาหรือบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับงาน Built-in ตามความต้องการของคุณ
รู้ก่อนพลาด! ก่อนจะ Built-in
เฟอร์นิเจอร์ Built-in คือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และมีความทนทานมากกว่าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว หากคุณคิดจะติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in แต่ไม่รู้ข้อมูลเลย วันนี้เรามีคำแนะนำคร่าวๆ แวะมาบอกกันคะ
เฟอร์นิเจอร์ Built-in VS เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ต่างกันอย่างไร?
- เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in คือเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำแบบที่ลูกค้าต้องการ และดีไซน์ที่ค่อนข้างตรงกับความต้องการของเจ้าของบ้าน โดยจะติดตั้งยึดติดกับพื้นที่ไปเลย
- เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว คือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ คือเฟอร์นิเจอร์ที่เราพบเจอกันทั่วไปปกติ ซึ่งสามารถเลือกขนาดที่พอดีกับห้องได้เช่นกัน
ขั้นตอนการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ Built-in
- วัดขนาดพื้นที่
- หาแบบที่สนใจ และวัสดุที่ต้องการ
- เตรียมงบประมาณ
- ศึกษาข้อมูล หาบริษัทหรือช่างที่ไว้ใจได้ มีผลงาน และน่าเชื่อถือ
สไตล์งาน built-in
- Modern – แบบที่เน้นความเรียบง่าย เรียบหรูดูดี
- Minimal – แบบที่ดูชิคและเรียบง่าย
- Classic – แบบที่เน้นความสวยคลาสสิกเท่าเทียมกัน เฟอร์นิจอร์จะเชื่อมโยงกันทั้งรูปแบบ สี และลวดลาย
- Loft – การเปลือยผิววัสดุแบบไม่มีการตกแต่ง เน้นของตกแต่งที่ทำจากอิฐ เหล็ก ปูน และไม้
งบประมาณงาน built-in
- สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด – วัสดุที่ใช้นิยมเป็นไม้ปาติเคิลบอร์ด ปิดทับด้วยกระดาษพิมพ์ลายไม้แผ่นฟอยล์ หรือแผ่นเมลามีนก่อนการใช้งาน งานไม้ชนิดนี้นิยมนำไปทำเฟอร์นิเจอร์เนื่องจากราคาถูก และสามารถความคุมต้นทุนได้
- สำหรับผู้ที่มีกำลังซื้อมากขึ้น – วัสดุที่นิยมใช้ได้แก่ ไม้อัดยาง กรุโครงไม้จ๊อยท์ ไม้จริงอัดประสาน ไม้พลาสวูด เป็นแผ่นพีวีซีชนิดแข็ง กันน้ำได้ ปลวกไม่กิน หรือใช้ไม้จริงไปเลย ตามแต่งบประมาณของเราได้เลย
วัสดุที่เลือกใช้กับงาน built-in
วัสดุไม้
-
-
- ไม้อัดปาติเกิล – ทำจากขี้เลื่อยหยาบ อัดเป็นแผ่น ไม่ทนน้ำ บวม และเปื่อย งานราคาถูก
- ไม้อัด MDF – ทำจากขี้เลื่อยละเอียด อัดเป็นแผ่น ไม่ทนน้ำ น้ำหนักเยอะ แต่ดีกว่าปาติเกิล
- ไม้อัด HMR – ทำจากขี้เลื่อยละเอียด อัดเป็นแผ่นด้วยกาวกันน้ำทำให้ทนชื้นได้ดีกว่า MDF และปาติเกิล
- ไม้อัดยางกรุโครงไม้จ๊อยท์ – ทำจากไม้จริงที่ฝานเป็นแผ่นบางๆ อัดซ้อนกันแบบกากบาท น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง
- ไม้จริงอัดประสาน – ทำจากไม้จริงชิ้นเล็กๆนำมาต่อกันด้วยกาว อัดขั้นรูปเป็นแผ่น
- ไม้จริง – คือนำไม้จริงๆมาตกแต่งบ้าน
-
วัสดุปิดผิว
-
-
- กระดาษฟรอย์ – ราคาถูก เนื้อฟิมล์บาง ต้องปิดผิวด้วยเครื่องจักรเท่านั้น ไม่ค่อยทนน้ำ ความหนาประมาณ 0.2-0.4 มิลลิเมตร
- วัสดุปิดผิวแบบ PVC – ฟิมล์ยืดหยุนได้ดี ทนรอยและทนน้ำได้พอใช้ ปิดผิวงานเข้าขอบโค้งเว้าได้ ความหนา 0.4-0.6 มิลลิเมตร
- แผ่นลามิเนต HPL – มีความหนาตั้งแต่ 0.6-1.2 มิลิเมตร ขึ้นอยู่กับลาย ยี่ห้อและราคา ทนรอยขีดข่วนและน้ำได้ดี
- แผ่นไม้บางหรือวีเนียร์ไม้จริง – คือไม้ชนิดต่างๆที่ฝานมาเป็นแผ่นบางๆ ความหนา 0.8-1.2 มิลิเมตร นำมาปิดผิวงานให้ดูเป็นไม้ชนิดนั้นๆ ให้ความรู้สึกเป็นไม้ ต้องทำสี ไม่ค่อยทนรอยขีดข่วน
-
สร้างความเป็นระเบียบด้วยเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินท์
ฉีกกฎช่วงเวลาการแต่งตัวไม่ให้วุ่นวาย
การเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อิน เพราะถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยของห้องได้มาก ยิ่งหากคุณมีของใช้เยอะ ตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินคือทางเลือกแรกที่เราแนะนำ ขนาดของพื้นที่ที่เจะบิ้วท์อินก็ต้องมีขนาดมากพอ เพราะจะได้ไม่กินพื้นที่ในการใช้งานส่วนอื่นๆ และควรเลือกดีไซน์ที่สามารถจัดเก็บข้าวของใช้ต่างๆ ได้เป็นสัดส่วนลงตัว และในส่วนของชั้นสำหรับพับเก็บเสื้อผ้า ตู้เสื้อผ้าควรจะต้องจัดเก็บได้ครบถ้วนทั้งเสื้อผ้าทุกแบบ รองเท้า กระเป๋า ตลอดจนเครื่องประดับต่างๆ และควรเลือกแบบให้ตรงกับความเหมาะสมกับการใช้งานด้วย
ชั้นวางหนังสือบิ้วท์อินที่สวยงามเป็นสัดส่วน
สีสันของสันหนังสือย่อมทำให้บ้านของคุณสวยงาม เป็นที่สะดุดตา และถือเป็นของตกแต่งอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้บ้านมีสีสัน การเลือกเฟอร์นิเจอร์จัดเก็บหนังสือนั้น ต้องเลือกสไตล์ที่บิ้วท์อินจะดีที่สุด และควรให้เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ ควรใช้วัสดุที่อ่อน แข็งแรง หรือเป็นสีขาวบวกกับติดกระจกใส เพื่อป้องกันฝุ่น รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะยิ่งทำให้เกิดการแมทช์กันอย่างลงตัว
เฟอร์นิเจอร์แขวนผนัง ตัวช่วยประหยัดพื้นที่
การตกแต่งบ้านที่มีขนาดเล็กด้วยเฟอร์นิเจอร์แขวนผนัง นับเป็นไอเดียการตกแต่งที่เหมาะสมมาก เพราะเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้เป็นอย่างดี การติดตั้งผนังในจุดที่เหมาะสม นอกจากช่วยจัดเก็บหรือจัดวางของตกแต่งได้อย่างเป็นระเบียบแล้ว เฟอร์นิเจอร์แขวนผนังยังทำให้ความรู้สึกสวยงาม ดูคลาสสิคหรือให้ความเป็นโมเดิร์นได้ ที่สำคัญการเลือกใช้ชั้นวางที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายหลากการใช้งาน ก็เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ
ชุดครัวบิ้วท์อิน ให้งานครัวป็นเรื่องสนุก
การตกแต่งพื้นที่ทำครัวที่ง่ายดายที่สุด แนะนำให้เลือกใช้ชุดครัวบิ้วท์อินเป็นหลัก ปัจจุบันงานบิ้วท์อินได้รับความนิยมอย่างมาก และก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอันดับต่อมาคือ ห้องครัวไม่ใช่แค่พื้นที่ทำอาหารเท่านั้น หากแต่ยังสามารถเป็นพื้นที่ในการจัดเก็บของใช้ในบ้านต่างๆได้อีกด้วย ดังนั้นหลักในการเลือกก็ควรเลือกชุดครัวที่ดีไซน์ชั้นวางหรือตู้เก็บของให้หลากหลาย พร้อมฟังก์ชั่นใช้งานอย่างครบครัน ก็จะทำให้การเข้าครัวของคุณเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุก ความคุ้มค่าและทำให้การเข้าครัวของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
สไตล์แต่งห้องตรงใจด้วยเฟอร์นิเจอร์ Built-in
เฟอร์นิเจอร์ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สำหรับคนที่ชอบตกแต่งบ้าน วันนี้จะพามารู้จักกับเฟอร์นิเจอร์ Built-in และพาส่องไอเดียแต่งบ้านให้สวยตรงใจทุกคนอีกด้วย
ลงทุนมากหน่อย แต่โดนใจแน่นอน
การแต่งห้องให้สวยและได้ดั่งใจเรา ก็ต้องแลกมากับงบประมาณที่สูงด้วยเช่นกัน เพราะค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นค่าช่าง ค่าติดตั้งแล้ว ยังรวมถึงค่าออกแบบงานด้วย แต่ไม่ว่าคุณจะชอบสไตล์ไหน ก็สามารถเลือกดีไซน์ทั้งรูปแบบ สีสัน วัสดุที่ใช้ หรือแม้แต่ฟังก์ชันการใช้งานก็สามารถทำได้ อาจจะต้องลงทุนมากหน่อย แต่ก็แลกมากับสไตล์ที่คุณชอบและใช้งานได้ตอบโจทย์เราไปยาวๆ
ใช้พื้นที่ได้คุ้ม เก็บของเป็นสัดส่วนมากขึ้น
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินท์จะช่วยทำให้ห้องดูเป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้น เพราะก่อนการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินนั้น จะมีการวัดและคำนวณขนาดให้พอดีกับพื้นที่ จึงช่วยลดพื้นที่ว่างในห้องให้ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มสุดๆ และสามารถจัดระเบียบพื้นที่การใช้งานในห้องได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ทำความสะอาดง่ายได้ด้วยตัวเอง
นอกจากการดูแลรักษาแล้ว การเอาใจใส่ก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณดูใหม่และสะอาดอยู่ตลอดเวลา ปราศจากเชื้อโรค และเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในครอบครัว ทั้งหมดนี้คือวิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งคุณสามารถความสะอาดได้เองด้วยวิธีง่ายๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน และคงความงามให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดของบ้านคุณไปอีกนาน
จัดเก็บได้แบบจัดเต็ม เหมาะกับคนไม่อยากแต่งบ้านบ่อย
แม้ว่าเฟอร์นิเจอร์จะแข็งแรงทนทาน ด้วยการติดตั้งที่ยึดกับโครงห้องอย่างผนังหรือพื้น แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนการจัดวางภายหลังได้ และแน่นอนด้วยการแบ่งช่องบิ้วอินท์ก็เพื่อตอบโจทน์สำหรับคนที่มีเข้าของเยอะ เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินท์นี้จึงเหมาะกับคนที่อยากจัดเต็มครั้งแบบครั้งเดียวจบนั่นเอง
ห้องดูไม่รก หยิบใช้ของสะดวก
แต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินท์ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งาน และการเลือกบิ้วอินท์ก็ถือว่าตอบโจทย์อย่างมากเพราะใช้พื้นที่ได้คุ้มสุดๆ การจจัดเก็บของใช้จึงดูเป็นระเบียบและหยิบใช้สอยได้ง่ายขึ้นด้วย
ดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ Built-in อย่างไร ให้ใหม่อยู่เสมอ!
ปัจจุบันวัสดุในการทำเฟอร์นิเจอร์มีหลากหลายแบบ และแต่ละแบบต่างก็มีวิธีการดูแลที่ต่างกัน ดังนั้นเราจึงมีวิธีการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์มาฝาก เพื่อถนอมเฟอร์นิเจอร์ให้ดูใหม่ตลอดเวลา
สิ่งที่ควรทำ :
- ฝุ่นและเศษผงที่สะสมบนเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน ควรปัดฝุ่นและเช็ดพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์และควรทำสม่ำเสมอเพื่อป้องกันคราบฝังแน่นบนเฟอร์นิเจอร์
- ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่กัดกร่อน หากมีคราบไขมันเกาะติด ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำแล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบบิดหมาด จากนั้นจึงนำไปเช็ดถูบริเวณที่เป็นคราบ
- การโดนแสงแดดโดยตรงอาจทำให้สีเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินซีดจางลง ควรใช้ผ้าม่าน มู่ลี่ หรือฟิล์มกรองแสงเพื่อรักษาความสวยงามและสีสันของเฟอร์นิเจอร์ไว้
สิ่งที่ไม่ควรทำ :
- ความชื้นอาจทำให้อายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินสั้นลง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำหรือของเหลว
- อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์เกิดรอยขีดข่วนและพื้นผิวเกิดการสึกหรอได้
- หลีกเลี่ยงการลากหรือเลื่อนของหนักบนพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน ควรยกและเคลื่อนย้ายสิ่งของด้วยความระมัดระวัง
นอกจากการดูแลรักษาแล้ว การเอาใจใส่ก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณดูใหม่และสะอาดอยู่ตลอดเวลา ปราศจากเชื้อโรค และเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในครอบครัว ทั้งหมดนี้คือวิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งคุณสามารถความสะอาดได้เองด้วยวิธีง่ายๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน และคงความงามให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดของบ้านคุณไปอีกนาน
Built-in furniture ต่างจาก Fit-in furniture อย่างไร?
หลายท่านอ่านคิดว่าเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 นี้เหมือนกัน และมักจะถูกเหมารวมกับภายใต้ร่มของคำว่า “Built-in” เนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกันมาก จนแทบแยกไม่ออกกันเลยทีเดียว เรามาดูกันว่า Built-in กับ Fit-in มีความแตกต่างกันอย่างไร
Built in furniture
วัสดุหลัก : คือไม้อัดยางราคาสูง ซึ่งเป็นไม้จริงในการผลิตและทำได้ยาก ต้องใช้เวลาทำนานและช่างก็ต้องมีฝีมือเก่งมากๆ ในการทำงานให้ออกมาเรียบร้อย
สร้างโครงสร้าง : ด้วยเทคนิคการเพาะโครงไม้อัดเพื่อประกอบเป็นตู้ โดยใช้แผงข้างหรือผนังตู้ร่วมกันเป็นส่วนใหญ่
ระยะเวลาที่ใช้ : ค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องนำไม้อัดเป็นแผ่นก่อน แล้วไปตัดทำโครงสร้างที่หน้างานและพ่นสีหรือติดลามิเนตเมื่อขึ้นโครงสร้างเสร็จ
ชิ้นงาน : เรียบร้อยสวยงามทนทาน แต่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เนื่องจากยึดติดเข้ากับตัวบ้านอย่างถาวร กรณีเกิดความเสียหาย เนื่องจากตู้ไม่ได้แยกเป็นชิ้นส่วน อาจต้องรื้อทั้งหมดก็ได้
Fit-in furniture
วัสดุหลัก :คือไม้ปาร์ติเกิ้ลบอร์ด ไม้ MDF บอร์ด และไม้อัด มีราคาต่างกันขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้ ราคาอยู่ที่ระดับกลาง-สูง ทำได้ง่ายกว่าในเรื่องของเทคนิคในการตัดชิ้นงานเป็นหลายขนาด แล้วนำมาประกอบเป็นตู้ก่อนนำไปติดตั้ง เนื่องจากทำได้ไม่ยาก และสะดวกรวดเร็ว สามารถผลิตชิ้นส่วนล่วงหน้าได้ งานแนว Fit-in จึงเป็นที่นิยมของบริษัทเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ ตัวอย่างเช่น IKEA เป็นต้น
สร้างโครงสร้าง : ด้วยเทคนิคการประกอบชิ้นส่วน ซึ่งแต่ละตู้จะมีไม้ที่ถูกตัดเป็นขนาดเหมาะสมมาประกอบกัน
ระยะเวลาที่ใช้ : 1-3 วัน เนื่องจากผลิตเป็นชิ้นงานประกอบสำเร็จและนำไปติดตั้งหน้างานได้เลย หากเป็นงานสีหรืองานลามิเนตก็สามารถทำไปจากโรงงานได้เลย
ชิ้นงาน : เรียบร้อย สวยงาม Furniture Built-in ข้อดีคือสามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยใช้ฟิตติ้งพิเศษสามารถถอดออกได้ และสามารถถอดออกมาแก้ไขได้ด้วย ตอนนี้มีวัสดุรุ่น HMR ออกมา เพื่อช่วยในข้อด้อยเรื่องกันความชื้น และยังมีไม้อัดที่สามารถเลือกใช้ได้หากมีงบประมาณเพียงพอ
รู้จัก Type of furniture ก่อนนำไปใช้งาน
เฟอร์นิเจอร์ Built-in จะต่างกับเฟอร์นิเจอร์ Knock-down ตรงที่การติดตั้งจะใช้ระยะเวลานานกว่า ช่างสามารถขึ้นงานโครงตู้ไว้แล้วยกมาประกอบที่หน้างาน หรือขึ้นงานทั้งหมดที่หน้างานเลยก็ได้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ประเภท Knock-down จะผลิตเป็นแผ่นชิ้นงานที่ปิดผิวสวยงาม แล้วนำมาประกอบที่หน้างานโดยใช้ระยะเวลาสั้นมาก
Type of furniture
Built in furniture
เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ติดตั้งอยู่กับที่ หรือฝังเข้าไปในผนัง มีรูปแบบเฉพาะตัว ตามความต้องการของผู้ใช้ เฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะยึดติดกับโครงสร้างอาคาร เคลื่อนย้ายได้ยาก และต้องใช้ช่างเฟอร์นิเจอร์ในการประกอบติดตั้ง อีกทั้งยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีราคาสูงอีกด้วย
Loose furniture หรือ Freestanding furniture
เป็นเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งอยู่กับที่ แต่มีการออกแบบและผลิตมาจากโรงงาน ลูกค้าสามารถเลือกแบบได้ แต่เนื่องจากเป็นเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป จึงไม่ยึดหยุ่นตามสภาพ นั้นจึงต้องเลือกแบบและขนาดให้รอบคอบก่อนที่จะซื้อใช้งาน ข้อดีเมื่อเปรียบเทียบกับเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน คือสามารถเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่า โดยไม่ต้องรื้อให้เสียหาย
Knockdown furniture
เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถถอดประกอบได้ โรงงานจะผลิตครั้งละมากๆ ในรูปแบบเดียวกัน การติดตั้งจะใช้ช่างหรือติดตั้งด้วยตนเองก็ได้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเคลื่อนย้ายง่าย แต่ขั้นตอนการออกแบบค่อนข้างยาก เพราะต้องออกแบบให้ชิ้นส่วนต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์ สามารถต่อกันได้และมีความแข็งแรงเพียงพอ
Built-in VS ลอยตัว
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบไหน จึงจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยของตัวเองมากที่สุด ระหว่างเฟอร์นิเจอร์ built-in กับเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว วันนี้เรามีทริคเล็กๆน้อยๆ ที่จะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เเละเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายว่าแบบไหนเหมาะสมกับคุณที่สุด
เฟอร์นิเจอร์ Built-in ?
คือเฟอร์นิเจอร์แบบตายตัว ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ มักทำตามความต้องการของลูกค้าในการออกแบบ เฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้มาพร้อมกับห้องชุด เน้นให้ทุกพื้นที่ใช้งานได้อย่างเต็มที่
ข้อดีเฟอร์นิเจอร์ Built-In
- การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน ถูกออกแบบและติดตั้งเข้าพอดีกับพื้นที่ห้อง ช่วยจัดวางตำแหน่งได้สัดส่วนกับขนาดห้อง ทำให้ห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
- เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน สามารถดัดแปลงการออกแบบได้ทั้งเรื่องสไตล์ ขนาด ชนิดวัสดุ และรูปแบบการใช้งานได้ตามใจลูกค้า
- เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน มีความแข็งแรงทนทาน และยึดติดกับกับโครงสร้างผนัง จึงลดการเกิดช่องว่างที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ และจุดที่สะสมของฝุ่น สิ่งสกปรกด้วยเช่นกัน
ข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์ Built-In
- เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินมีต้นทุนค่อนข้างสูง โดยคิดรวมกับค่าออกแบบ วัดพื้นที่ ขนาดของเฟอร์นิเจอร์ จำนวนจุดติดตั้ง รวมถึงค่าช่างด้วย ซึ่งอาจมีราคาขั้นต่ำสูงถึง 100,000 – 200,000 บาทขึ้นไป
- เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน เคลื่อนย้ายไม่ได้เมื่อติดตั้งแล้ว การรื้อถอนเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินเป็นงานที่ยุ่งยาก หากต้องการเปลี่ยนการตกแต่ง อาจต้องคำนึงถึงในหลายๆส่วน ทั้งเรื่องสไตล์ใหม่ที่อาจไม่เข้ากัน และสิ่งสำคัญคือเรื่องเงินที่ต้องจ้างช่างรื้อถอนใหม่ และต้องทำใหม่ ซึ่งมีราคาสูงมากแน่นอน
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ?
คือเฟอร์นิเจอร์ที่ขายทั่วไป สามารถจัดวางตรงไหนก็ได้ในห้องได้ตามใจชอบ เฟอร์นิเจอร์จะถูกออกแบบสำเร็จมาแล้วจากโรงงาน ไม่สามารถแก้ไข ดัดแปลงรูปแบบตามความชอบได้ และเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นแบบน็อคดาวน์
ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
- เฟอร์นิเจอร์สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งการจัดวางได้ตามสะดวกต่อการใช้งาน โดยเมื่อเสื่อมสภาพการใช้งานก็สามารถขนย้ายออกเป็นชิ้นๆได้
- ได้เห็นหน้าตาและขนาดสัดส่วนของเฟอร์นิเจอร์จริงก่อนซื้อ
ข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
- ความทนทานของเฟอร์นิเจอร์แปรผันตามราคาและคุณภาพวัสดุ หากเป็นวัสดุต้นทุนต่ำ อายุการใช้งานก็จะสั้นลงไปด้วย
- เฟอร์นิเจอร์บางชิ้น อาจมีสัดส่วนไม่พอดีกับห้อง ทำให้เสียพื้นที่ใช้สอย จึงต้องทำการวัดระยะสัดส่วนของห้องให้ละเอียด ก่อนซื้อเพื่อให้ได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่นั่นเอง
รูปแบบตู้ built in ที่ใช้จัดเก็บของภายในบ้าน
การสร้างบ้าน หลายคนคงมีความคิดที่จะทำพื้นที่เก็บของเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในบ้าน แน่นอนการเลือกใช้ เฟอร์นิเจอร์ built in จึงเป็นตัวเลือกหลักของคุณ ดังนั้นการกำหนดขนาด รูปแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่บ้าน จึงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเห็นด้วย เราจึงมีแนวคิด 5 รูปแบบตู้ built in ที่ใช้จัดเก็บของภายในบ้าน เพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้กับคุณ ในการออกแบบ built in และเพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ใช้พื้นที่บนผนัง
ผนัง สามารถทำให้เกิดประโยชน์ได้แค่คุณวางตู้ built-in ขนาบกับผนัง พร้อมนำทีวี ของตกแต่งไว้ในตู้เดียวกัน แค่นี้ก็จะเหลือพื้นที่เยอะแยะที่จะใช้ทำกิจกรรมอื่นๆได้อีกมากมาย
สร้างที่จัดเก็บไว้โดยรอบ
หากคุณเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ built in และอยากใช้เกิดประโยชน์มากที่สุด การสร้างพื้นที่จัดเก็บไว้โดยรอบ จะทำให้เหลือพื้นที่เก็บของเล็กๆจุกจิกๆให้มีระเบียบยิ่งขึ้น และจะทำให้หยิบจับสิ่งของได้ง่ายขึ้นด้วย
เห็นความสำคัญทุกมุมบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเล็กหรือใหญ่ การเหลือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมากขึ้น ถือเป็นการประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งในการออกแบบบ้านของเรา ทุกพื้นที่ซอกมุมในบ้าน คุณสามารถกำหนดขนาดของเฟอร์นิเจอร์ built in ให้เข้ากับทุกมุมของบ้านได้อย่างแน่นอน
ปรับเปลี่ยนรูปแบบ
นอกจากเราอยากได้ที่เก็บของในบ้านแล้ว ความสวยงามก็ถือเป็นอีกสิ่งนึงที่คนทำบ้านต้องการ แค่คุณลองปรับเปลี่ยนรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ built in ดูซักหน่อย อาจทำให้บ้านดูมีสไตล์และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวบ้านคุณเพิ่มขึ้นแน่นอน
Built-in พื้นที่ใต้ที่นั่ง
การเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ อีหหนึ่งวิธีที่ไม่ควรมองข้ามคือทำที่จัดเก็บใต้ที่นั่ง ไม่ว่าคุณจะทำเป็นลิ้นชัก บานประตูเลื่อน หรือปล่อยโล่ง ก็แล้วแต่ไอเดียของคุณ จะออกแบบหรือปรับเปลี่ยนรูปทรงของที่นั่งยังไง ก็ดูเกร๋และทำให้ห้องดูมีอะไรมากยิ่งขึ้นด้วย
5 ข้อดี ในการเลือกใช้ตู้เสื้อผ้า Built-in สำเร็จรูป
ตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินสำเร็จรูป คือชุดเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปที่ใช้ทดแทนงานบิ้วท์อินที่มีความสวยเนี๊ยบ เหมือนงานบิ้วท์อินแท้ๆ ถูกออกแบบมาให้มีขนาดสำเร็จรูปและใกล้เคียงกับขนาดของพื้นที่ติดตั้งจริง สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและนำไปติดตั้งได้ทันที และที่สำคัญสามารถติดตั้งได้เร็วกว่างานเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วท์อิน เพราะใช้เวลาติดตั้งแค่ 2- 3 ชั่วโมงเท่านั้น วันนี้มีตัวอย่าง 5 ข้อดีในการเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินสำเร็จรูปมาแนะนำให้ทราบกันค่ะ
เลือกฟังก์ชั่นด้านในได้ตามความต้องการ
คุณสามารถเลือกฟังก์ชันด้านในตามความต้องการของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นชั้นไว้เก็บเสื้อผ้า กระเป๋า หรือแม้แต่ช่องสำหรับใส่ชุดเดรสก็ตาม คุณสามารถปรับรูปแบบหรือแยกติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้ตามความต้องการใช้งาน และยังสามารถจัดเก็บของได้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย แค่ถอดออกแล้วไปติกตั้งใหม่โดยไม่ต้องรื้อทิ้ง
เลือกขนาดให้ใกล้เคียงกับพื้นที่ติดตั้ง
ชุดตู้บิ้วท์อินสำเร็จรูปจะมีความสูงเกือบติดฝ้า เป็นงานเฟอร์นิเจอร์ที่คุณสามารถเลือกขนาดความกว้างของตู้เสื้อผ้าได้ใกล้เคียงกับขนาดของพื้นที่ติดตั้งจริง และยังสามารถเพิ่มไซส์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ตามความต้องการของพื้นที่ใช้งานได้
มีบานกระจกเดดคอร์แบบเต็มตัว
คุณสามารถเลือกสีหน้าบานประตูของตู้เสื้อผ้าได้ตามความต้องการถึง 3 สีแล้ว (สีขาว , สีเทา-ดำ , สีลายไม้) และยังสามารถติดตั้งหน้าบานประตูแบบกระจกเดดคอร์เต็มตัว เอาไว้ส่องเพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อยในการแต่งกายได้อีกด้วย
มีราวสเตนเลสที่แข็งแรง
ราวแขวนเสื้อผ้าที่มีความแข็งแรงก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ เราจึงผลิตราวแขวนสเตนเลสที่มีความแข็งแรง ทนทาน ทำให้คุณสามารถแขวนเสื้อผ้าได้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า โดยที่ไม่ต้องกลัวด้วยว่าราวแขวนจะแอ่น หรือหักลงมา
ทำ Walk in Close ได้ในงบประหยัด
สำหรับใครที่อยากทำห้องแต่งตัวแบบ Walk in Closet แต่ไม่อยากเสียเงินมาก ชุดตู้เสื้อผ้าบิ้ว์อินสำเร็จรูปเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้คุณมีห้องแต่งตัวแบบ Walk in Closet สวยๆ ได้ในงบประหยัดตามที่คุณต้องการ