5 ข้อดี ในการเลือกใช้ตู้เสื้อผ้า Built-in สำเร็จรูป
ตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินสำเร็จรูป คือชุดเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปที่ใช้ทดแทนงานบิ้วท์อินที่มีความสวยเนี๊ยบ เหมือนงานบิ้วท์อินแท้ๆ ถูกออกแบบมาให้มีขนาดสำเร็จรูปและใกล้เคียงกับขนาดของพื้นที่ติดตั้งจริง สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและนำไปติดตั้งได้ทันที และที่สำคัญสามารถติดตั้งได้เร็วกว่างานเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วท์อิน เพราะใช้เวลาติดตั้งแค่ 2- 3 ชั่วโมงเท่านั้น วันนี้มีตัวอย่าง 5 ข้อดีในการเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินสำเร็จรูปมาแนะนำให้ทราบกันค่ะ
เลือกฟังก์ชั่นด้านในได้ตามความต้องการ
คุณสามารถเลือกฟังก์ชันด้านในตามความต้องการของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นชั้นไว้เก็บเสื้อผ้า กระเป๋า หรือแม้แต่ช่องสำหรับใส่ชุดเดรสก็ตาม คุณสามารถปรับรูปแบบหรือแยกติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้ตามความต้องการใช้งาน และยังสามารถจัดเก็บของได้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย แค่ถอดออกแล้วไปติกตั้งใหม่โดยไม่ต้องรื้อทิ้ง
เลือกขนาดให้ใกล้เคียงกับพื้นที่ติดตั้ง
ชุดตู้บิ้วท์อินสำเร็จรูปจะมีความสูงเกือบติดฝ้า เป็นงานเฟอร์นิเจอร์ที่คุณสามารถเลือกขนาดความกว้างของตู้เสื้อผ้าได้ใกล้เคียงกับขนาดของพื้นที่ติดตั้งจริง และยังสามารถเพิ่มไซส์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ตามความต้องการของพื้นที่ใช้งานได้
มีบานกระจกเดดคอร์แบบเต็มตัว
คุณสามารถเลือกสีหน้าบานประตูของตู้เสื้อผ้าได้ตามความต้องการถึง 3 สีแล้ว (สีขาว , สีเทา-ดำ , สีลายไม้) และยังสามารถติดตั้งหน้าบานประตูแบบกระจกเดดคอร์เต็มตัว เอาไว้ส่องเพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อยในการแต่งกายได้อีกด้วย
มีราวสเตนเลสที่แข็งแรง
ราวแขวนเสื้อผ้าที่มีความแข็งแรงก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ เราจึงผลิตราวแขวนสเตนเลสที่มีความแข็งแรง ทนทาน ทำให้คุณสามารถแขวนเสื้อผ้าได้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า โดยที่ไม่ต้องกลัวด้วยว่าราวแขวนจะแอ่น หรือหักลงมา
ทำ Walk in Close ได้ในงบประหยัด
สำหรับใครที่อยากทำห้องแต่งตัวแบบ Walk in Closet แต่ไม่อยากเสียเงินมาก ชุดตู้เสื้อผ้าบิ้ว์อินสำเร็จรูปเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้คุณมีห้องแต่งตัวแบบ Walk in Closet สวยๆ ได้ในงบประหยัดตามที่คุณต้องการ
ทำตู้ Built-in เลือกใช้ไม้อะไรดี ?
ในปัจจุบันวัสดุไม้ที่สามารถนำมาใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ในส่วนของตู้บิ้วท์อินนั้น มีหลากหลายให้เลือกใช้กัน และ ไม้แต่ละประเภทก็จะมีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกัน วันนี้จะมาแนะวัสดุไม้ที่ใช้ในการทำตู้บิ้วท์อิน ให้กับทุกท่านได้ทราบกัน โดยไม้ที่นิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ ในส่วนของตู้บิ้วท์อินนั้น จะนิยมใช้อยู่ 4 ชนิดด้วยกัน ดังนี้
MDF
MDF คือวัสดุไม้ที่มีลักษณะเป็นเศษใยไม้แล้วนำมาอัดให้เป็นแผ่นตามขนาดที่กำหนด ซึ่งจะให้เนื้อสัมผัสที่เรียบเนียน แน่น และมีน้ำหนักเบา
ความเหมาสมในการใช้งาน : ไม้ MDF จะเหมาะกับการนำมาใช้ในส่วนของโครงสร้างประเภทตู้ลอยต่างๆ เนื่องจากไม้ MDF เป็นวัสดุไม้ที่น้ำหนักเบา แต่จะมีความแข็งแรงของเนื้อไม้ค่อนข้างต่ำ จึงไม่เหมาะในการนำไปใช้ในส่วนของโครงสร้างตู้บิ้วอินประเภทเคาน์เตอร์ได้ เพราะจะรับน้ำหนักไม่ไหวและไม่แนะนำกับงานตู้บิ้วท์อิน ที่ต้องโดนในเรื่องของความชื้น ความร้อน หรือต้องโดนน้ำเป็นอันขาด
HMR
HMR คือวัสดุไม้ที่มีลักษณะเดียวกับไม้ MDF ซึ่งเป็นเศษใยไม้นำมาอัดเป็นแผ่นลักษณะเดียวกัน แต่จะเพิ่มในส่วนของสารเคลือบกันความชื้นเข้าไปด้วย ทำให้ตัวเนื้อไม้มีสีเขียวแก่ ให้มีความแข็งแกร่งและเพิ่มการกันความชื้นและความความร้อนให้ดีมากยิ่งขึ้น
ความเหมาะสมในการใช้งาน : ไม้ HMR จะเหมาะกับงานโครงตู้บิ้วอินประเภท ตู้ลอยและตู้เคาน์เตอร์ขนาดไม่ใหญ่มาก รวมไปถึงหน้าบานและชั้นวางของตกแต่งต่างๆ ด้วยความที่ ไม้ HMR จะมีสารเคลือบกันความชื้นเพิ่มขึ้นมา จึงสามารถนำไปใช้ในงานได้หลากหลายมากกว่าไม้ MDF ซึ่งจะสามารถใช้ได้ทั้งพื้นที่ที่โดน ความชื้น, ความร้อน อย่าง ห้องครัว หรือห้องน้ำ ได้นั้นเอง
Viva Board
Viva Board คือวัสดุไม้ที่มีส่วนผสมของไม้และปูนซีเมนต์ แล้วนำไปเข้าเครื่องอัดแรงดันสูงจนเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งจะมีจุดเด่นในเรื่องของความแข็งแรง กันน้ำกันปลวก กันความร้อน ความชื้น รวมไปถึงกันลามไฟได้อีกด้วย แต่มีข้อเสียก็คือน้ำหนัก
ความเหมาะสมในการใช้งาน : Viva Board จะเหมาะกับการนำไปใช้ในส่วนของตู้บิ้วท์อินประเภท ตู้จัดเก็บขนาดใหญ่ ตู้เคาน์เตอร์ต่างๆ ด้วยความที่ วีว่าบอร์ด มีส่วนผสมของไม้และปูนซีเมนต์ จึงทำให้มีน้ำหนักที่ค่อนข้างสูง จึงไม่เหมาะกับการนำไปใช้ในส่วนของตู้แขวน เพราะตัวยึดจะรับน้ำหนักไม่ไหว
Plaswood
Plaswood คือวัสดุประเภท PVC ชนิดแข็ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัสดุทางเลือก ใช้ทดแทนไม้จริง Plaswood จะมีจุดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่น กันน้ำกันปลวกแบบ 100% เหมือนกับวัสดุ Viva Board แต่จะมีข้อดีเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างก็คือในเรื่องของน้ำหนัก ที่มีน้ำหนักเบากว่า Viva Board และ HMR เป็นอย่างมาก
ความเหมาะสมในการใช้งาน : Plaswood เป็นวัสดุชนิดเดียวที่สามารถนำไปใช้ในงานตู้บิ้วท์อินได้ทุกประเภทและด้วยความที่มีคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งเท่ากับวีว่าบอร์ด แต่มีน้ำหนักที่เบากว่าวีว่าบอร์ดด้วยแล้วนั้น วัสดุ Plaswood จึงได้รับความนิยมในการเลือกนำมาใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ เป็นอย่างมากในปัจจุบันเลยล่ะครับ
ควรเลือกวัสดุพื้นผิวแบบไหนในการ Built-in
การผลิตวัสดุสำหรับตกแต่งพื้นผิวที่ทั้งสวยงาม มีความทนทาน และหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ทุกท่านได้มีทางเลือกในการตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น สามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานได้มากที่สุด
แผ่นไม้จริง
ข้อดีของมันก็คือจะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ มีผิวสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ เพราะเป็นไม้ที่มาจากต้นไม้จริง และยังมีลายไม้ที่สวยเป็นเอกลักษณ์ตามธรรมชาติทั่วทั้งแผ่น แต่วัสดุที่ผลิตจากไม้นั้นจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง เนื้อไม้ยิ่งหนาก็ยิ่งมีราคาสูง
แผ่นไม้บาง หรือ วีเนียร์ (Veneer)
วีเนียร์ คือวัสดุที่เป็นแผ่นไม้ที่มีความหนาไม่เกิน 3 มิลลิเมตร มีกระบวนการผลิตมาจากการฝานผิวของเนื้อไม้ออกเป็นแผ่นลักษณะบางๆ แล้วนำไปอบและรีดให้เรียบเป็นแผ่น ซึ่งเป็นวัสดุตกแต่งแบบบิ้วท์อินที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ตามธรรมชาติ
วัสดุผิวลามิเนต
แผ่นลามิเนต เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเลียนแบบให้ใกล้เคียงผิวไม้จริง ด้วยการพิมพ์ลวดลายให้คล้ายคลึงกับไม้ธรรมชาติ หากมองด้วยตาเปล่าแบบผ่านๆก็อาจจะยังแยกไม่ออก ลามิเนตมีพื้นผิวที่ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าพื้นผิวไม้จริง อายุการใช้งานนานกว่า มีราคาถูกกว่า และมีสีสันให้เลือกได้มากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบงานไม้ที่มีสีสม่ำเสมอกันทั่วทั้งบ้าน
วัสดุผิวเมลามีน
เป็นวัสดุที่มีกระบวนการผลิตโดยการนำเอากระดาษหลายๆชั้นมาบีบอัดให้แน่น จากนั้นนำมาเคลือบเงาและพิมพ์ลวดลายเลียนสีตามธรรมชาติของผิวไม้หรือสีของพื้นผิวอื่นๆ คุณสมบัติของวัสดุผิวเมลามีนคือทนความร้อนและความชื้นได้ดี ไม่เป็นรอยขีดข่วนง่ายและมีอายุการใช้งานนาน
วัสดุผิวพีวีซี
วัสดุผิวพีวีซีนั้นผลิตจากพลาสติก โดยผ่านกระบวนการผลิตให้เป็นแผ่นและนำมาพิมพ์ลวดลายให้ใกล้เคียงกับผิวไม้ธรรมชาติ โดยปกติผิวของวัสดุพีวีซีจะไม่ได้หนามาก แต่จะมีความเหนียวและทนทาน ใช้สำหรับการติดทับเพื่อปิดผิวไม้ ช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วน ทนความร้อนและความชื้นได้ดี
วัสดุที่นิยมนำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ Built-in
การ built-in ตกแต่งภายใน ถือว่าเป็นการตกแต่งยอดนิยม ที่ได้ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตปัจจุบันได้เป็นอย่างดี แต่การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยังคงต้องนึกถึงความจำเป็นในการใช้งานอีกด้วย ดังนั้นวัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตก็มีหน้าที่และความเหมาะสมเฉพาะตัวอยู่แล้ว วันนี้จึงมีตัวอย่างของวัสดุแต่ละประเภทมาแนะนำ ว่าเหมาะสมกับการใช้งานแบบไหนสำหรับคุณ
Particle Board
- แผ่นไม้มีสีและลายที่สม่ำเสมอ
- แผ่นไม้มีความแข็งแรง คงทน ไม่ยืดหดตัวตามสภาพอากาศ
- ส่วนใหญ่แผ่นไม้ประเภทนี้จะผลิตเป็นขนาดใหญ่ ทำให้มีพบรอยต่อบนไม้เลย
- แผ่น Particle Board มีขนาดที่หลากหลายเลือกใช้ตั้งแต่ 16-25 มม.
- Particle Board ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย
Medium Density Fiberboard
- แผ่นไม้มีความหนาแน่นสูงกว่าแผ่นไม้อัด Particle Board
- แผ่นไม้มีความแข็งแรงมาก สามารถรับน้ำหนักได้ดี
- แผ่นไม้ประเภทนี้มีความเรียบเนียน และความเรียบเนียนนี้ค่อนข้างสม่ำเสมอทั้งแผ่น
- ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนสไตล์เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน ก็สามารถทาสีหรือพ่นสีไปที่เนื้อไม้นี้ได้
- แผ่นไม้อัดประเภทนี้ทนน้ำได้ดีกว่า Particle Board
Plywood
- ช่วยป้องกันปลวก หรือแมลงจำพวกเนื้อไม้ได้อย่างดี
- สามารถทนความชื้น
- ผิวไม้เรียบเนียน มีความสวยงาม
- ลักษณะไม้อัดมีคุณภาพ มีความแข็งแรง ทนทาน
- ป้องกันน้ำได้ดี
Wood
- มีความแข็งแรง ทนทาน
- มีลวดลายเนื้อไม้ที่สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ
- สามารถถ่ายเทความร้อนได้รวดเร็ว
- สัมผัสไม้อัดที่นุ่มนวล
การเลือกใช้วัสดุต่างๆ ในการทำเฟอร์นิเจอร์ built-in จำเป็นจะต้องเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน ก่อนตัดสินใจทุกครั้ง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะถ้าหากนำมาติดตั้งในการใช้งานที่ถูกต้อง ก็จะทำให้การใช้งานเกิดประโยชน์ได้มากที่สุด