ไอเดีย “ชุดครัวบิวท์อิน (Shaped Kitchen)” สะดวกสบาย ใช้งานง่าย ประหยัดพื้นที่
ห้องครัว คือส่วนหนึ่งในบ้านที่ควรให้ความสำคัญ เพราะในทุกๆ วันเราต้องทานอาหาร การออกแบบห้องครัวให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะห้องครัวในบ้านหลังเล็กที่มักจะมีพื้นที่จำกัด การจัดสรรจะต้องคำนึงถึงการใช้งานพื้นที่ที่คุ้มค่าที่สุด ในจำนวนตารางเมตรที่มีเพียงน้อยนิด
การออกแบบ เคาน์เตอร์ครัวรูปทรงตัวแอล (L-Shape) นับว่าตอบโจทย์ห้องครัวที่มีพื้นที่คับแคบ เพราะสามารถใช้พื้นที่มุมห้องให้เกิดประโยชน์ได้ และยิ่งถ้าติดตู้ลิ้นชักบิวท์อินแขวนผนังไว้ด้วย ก็จะยิ่งมีพื้นที่เก็บของใช้ต่างๆ มากขึ้นด้วย
วันนี้ จะพาเพื่อนๆ ชาวเว็บไปชม ครัวบิวท์อินรูปตัวแอล ผลงานการออกแบบจาก แต่ละแบบมีดีไซน์ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากเพื่อนๆ ชาวเว็บกำลังมองหาชุดครัวบิวท์อินสวยๆ กันอยู่ล่ะก็ ตามมาชมกันเลยค่ะ
1. Classic Loft Kitchen (ครัวบิ้วอินสไตล์ลอฟท์)
2. Modern Ock (ครัวบิ้วอินสีโอ๊คสไตล์โมเดิร์น)
3. Modern Dark Ock (ครัวบิ้วอินสีโอ๊คสไตล์โมเดิร์น)
4. Modern Black & White (ครัวบิ้วอินสีขาว-ดำสไตล์โมเดิร์น)
5. White-Oak Kitchen (ครัวบิ้วอินสีขาวท๊อปลายไม้)
6. Red-Black Kitchen (ครัวบิ้วอินสีแดง-ดำสไตล์โมเดิร์น)
7. Woody Classic Kitchen (ครัวบิ้วอินลายไม้สไตล์คลาสสิค)
8. Loft Style Kitchen (ครัวบิ้วอินสไตล์ลอฟท์)
9. Woody Classic Style Kitchen (ครัวบิ้วอินสีขาวสไตล์คลาสสิค)
10. Modern Loft Kitchen (ครัวบิ้วอินสีขาวสไตล์โมเดิร์นลอฟท์)
11. Oak Kitchen (ครัวบิ้วอินสีโอ๊ค)
12. White Classic Kitchen (ครัวบิ้วอินสีขาวสไตล์คลาสสิค)
13. Woody White Kitchen (ครัวบิ้วอินสีขาวสไตล์คลาสสิค)
14. Black Modern Kitchen (ครัวบิ้วอินสีดำสไตล์โมเดิร์น)
15. Red & Black Kitchen (ครัวบิ้วอินสีแดงสไตล์โมเดิร์น)
16. Two Tone Kitchen (ครัวบิ้วอินสีขาวสไตล์คลาสสิค)
17. Smart Black Kitchen (ครัวบิ้วอินสีดำสไตล์โมเดิร์น)
18. Modern Loft Style (ครัวบิ้วอินลายไม้สไตล์ลอฟท์)
19. Black&White Kitchen (ครัวบิ้วอินสีขาวสไตล์โมเดิร์น)
20. Modern Loft Kitchen (ครัวบิ้วอินสไตล์โมเดิร์นลอฟท์)
เลือกบริษัทรับทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน อย่างไรถึงจะดี?
เชื่อเหลือเกินว่าเมื่อพูดถึงเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน หลายคนคงจะนึกถึงเฟอร์นิเจอร์ที่สร้างขึ้นแล้วอยู่ถาวร ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างแน่นอน! ซึ่งในปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และในท้องตลาดของเองก็มีมากมายหลากหลายบริษัทเลยก็ว่าได้ที่ไม่ว่าจะเป็นการรับทำครัวบิ้วอิน หรือเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินอื่น ๆ
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรกันว่าบริษัทที่รับทำเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วอินบริษัทไหนที่ตอบโจทย์ ตรงใจ และคุ้มค่า งานนี้เราจึงไม่รอช้า ขอนำเสนอ 5 วิธีเลือกบริษัทรับทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน จะมีวิธีอะไรบ้าง เลื่อนลงไปอ่านสาระดี ๆ จากเราได้ที่ด้านล่างนี้เลย!
5 วิธีเลือกบริษัทรับทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงวิธีเลือกบริษัทรับทำบิ้วอินกันนั้น เราขอพูดเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินแบบคร่าว ๆ กันสักหน่อย เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน (Built-in) คือ เฟอร์นิเจอร์แบบถาวรที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้ มักนิยมสั่งทำตามความประสงค์ ส่วนใหญ่นิยมทำตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ห้องครัว ตู้ในห้องน้ำ หรือส่วนอื่น ๆ ตามความต้องการของผู้อาศัย ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้คือทำให้ห้องดูเป็นระเบียบ ใช้สอยพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ที่สำคัญยังมีความแข็งแรงทนทานอีกด้วย
แต่เรื่องข้อเสียใช่ว่าจะไม่มีเลย เพราะในขั้นตอนการทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินนั้นมีราคาที่แพงมาก เนื่องจากต้องคิดค่าแรงในการจ้างช่าง ตลอดจนต้องทำการวัดมุม องศาในการจัดวาง รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ การสั่งทำบิวท์อินจึงมีราคาค่อนข้างสูง เมื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินกันไปแล้วก็มาสู่สาระดี ๆ ที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือ 5 วิธีเลือกบริษัทรับทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน ซึ่งมีดังนี้
1. ประสบการณ์ยาวนาน
สำหรับเรื่องนี้เป็นอะไรที่สำคัญมากเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากการที่คุณเลือกใช้งานบริษัทรับทำเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วอินนอกจากจะทำให้คุณมั่นใจได้เรื่องความเป็นมืออาชีพของบริษัทแล้ว คุณยังไม่ต้องกังวลอีกว่างานมีปัญหาแล้วจะไม่เสร็จ ไปต่อไม่ได้ หรือถูกเทกระทันหัน อย่าลืมว่าบริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนาน เปิดให้บริการมาแล้วหลายปี
นอกจากเรื่องความเป็นมืออาชีพที่ต้องรักษาไว้ อีกสิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องรักษาเอาไว้อีกก็คือเรื่องของชื่อเสียง ซึ่งบริษัทที่เปิดมานานแล้วส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครหรอกที่จะทุบหม้อข้าวตัวเอง ทำเรื่องแย่ ๆ อย่างการเทลูกค้า เพราะในปัจจุบันโลกเราข่าวสารไปไวมาก หากถูกกล่าวถึงเสีย ๆ หาย ๆ ในโลกออนไลน์ย่อมส่งผลกระทบกว่าที่คิดแน่นอน
2. มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
สำหรับเรื่องนี้เป็นอะไรที่สำคัญไม่แพ้กัน ลองนึกภาพตามดูว่าหากคุณใช้บริการกับบริษัทที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความเชี่ยวชาญ เมื่องานมีปัญหาขึ้นมาย่อมแก้ไขอะไรได้ช้าเมื่อเทียบกับทีมงานที่เชี่ยวชาญกว่า จริงอยู่ที่งานรับบิ้วอินบ้านนั้นไม่ใช่งานใหญ่อะไรเหมือนกับการรีโนเวทบ้าน สร้างบ้านทั้งหลัง แต่จะดีกว่าไหมหากคุณเลือกใช้บริการกับทีมงานที่เชี่ยวชาญ เวลามีปัญหาจะได้ไม่ต้องรอการแก้ไขนาน เชื่อเถอะว่าคุณไม่อยากเสียเวลารอการแก้ไขอะไรนาน ๆ หรอก
3. มีสัญญาการทำงาน
สำหรับข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ไม่ควรละเลยที่สุดเลยก็ว่าได้ จริงอยู่ที่นี่เป็นเพียงการทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน ไม่ใช่งานใหญ่อย่างการสร้างบ้านทั้งหลัง แต่คุณก็ไม่ควรที่จะละเลยเรื่องสัญญาการทำงานโดยเด็ดขาด ฉะนั้นเพื่อความอุ่นใจ เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้บริการกับบริษัทรับทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินที่มีสัญญาการทำงาน จะดีที่สุด!
4. วัตถุดิบมีคุณภาพ
สำหรับเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานของเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินนั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกยึดติดยาวนาน โครงสร้างที่ใช้จึงต้องแข็งแรง ทนทาน และมีคุณภาพดี เพื่อที่คุณจะได้เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินที่อยู่ทน อยู่นาน การเลือกบริษัทที่เขาใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพที่สุดจึงเป็นคำตอบ!
5. มีการร่างแบบ 3 D
ในขั้นตอนของการทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน แน่นอนว่าต้องมีการพูดถึงงานออกแบบกันอยู่แล้ว จะดีกว่าไหมหากบริษัทที่คุณเลือกมีการร่างแบบ 3D และคุณสามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมได้ถึง 3 ครั้ง เพื่อที่การสรุปแบบ 3D ถูกต้อง เรียบร้อย และ เป็นแบบที่คุณพอใจ จากนั้นทางบริษัทจะนำมาทำเป็น Shop Drawing ซึ่งเป็นรายละเอียดของงานตกแต่งภายในทั้งหมด เพื่อนำไปให้ผู้รับเหมาใช้ในการคำนวณราคา หรือ เป็นแบบในการทำการตกแต่งภายในต่อไป